เจอแล้วคนพา ประสิทธิ์ เจียวก๊ก หลบหนี

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2565 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน คุมตัว นายสมประสงค์ ทิพย์สุคนธ์ , น.ส.กัญญามาส ทองปาน , นายณัฐนันท์ อังคณาวิทยากุล ผู้ต้องหาที่ 1-3 กระทำผิดฐาน ร่วมกันวางแผนให้นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก หลบหนีออกจากศาลอาญา โดยวางแผนให้นายประสิทธิ์เข้าห้องน้ำ โดยนำกุญแจไขโซ่ตรวน รวมถึงเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าหุ้มส้นและหนวดปลอมให้กับนายประสิทธิ์ ไว้ในห้องน้ำเพื่อให้นายประสิทธิ์หลบหนี แต่กลับหนีไม่รอดโชคดีที่มีจำเลยคดีอื่นที่อยู่บริเวณนั้นได้สังเกตเห็นและจำได้ว่าเป็นนาย ประสิทธิ์ จึงตะโกนแจ้งเจ้าหน้าที่ศาลที่อยู่บริเวณนั้นเพื่อให้เข้าจับกุม เนื่องจากนายประสิทธิ์ก็มีความพยายามจะปีนบันไดกระโดดหนีลงมาจนทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาเล็กน้อยแต่ไม่นานก็สามารถจับกุมตัวนายประสิทธิ์ไว้ได้
นายประสิทธิ์นำกุญแจมาจากไหน

จึงเกิดข้อสงสัยว่านำกุญแจมาจากที่ใดและจำเป็นต้องสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่ากุญแจที่ใช้เป็นการปั๊มกุญแจมาจากกุญแจต้นฉบับหรือมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ในส่วนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์อ้างว่าเฝ้าอยู่
บริเวณหน้าห้องน้ำทราบว่าทางกรมราชทัณฑ์มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้วและไม่ทราบว่านายประสิทธิ์นั้นแอบหลบนีไป และศาลได้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในข้อหาละเมิดอำนาจศาล ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน
แต่ผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งสามได้ยื่นคำร้องพร้อมเงินสด คนละ 25,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราว ศาลจึงไม่มีการให้ประกันตัว
ด้านทนายความของนายประสิทธิ์
ได้เปิดเผยว่าช่วงที่นายประสิทธิ์ถูกจับเขาได้มีความเครียดเนื่องจากถูกกลุ่มผู้เสียหายกลุ่มหนึ่งไปร้องเรียนที่เรือนจำว่า นายประสิทธิ์อยู่ในเรือนจำแล้วมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น และพยายามที่จะให้นายอภิสิทธิ์ถูกย้ายเรือนจำไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นั้นหมายความว่านายประสิทธิ์จะต้องเริ่มต้นใหม่ พยานหลักฐานต่าง ๆที่รวบรวมไว้สู้คดีอาจจะสูญหายเปลี่ยนแปลง และยืนยันว่าที่ผ่านมานายประสิทธิ์ไม่มีท่าทีกล่าวถึงประเด็นการหลบหนีกับตนเองเลย
ด้านผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

นายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ระบุว่า ระหว่างที่เบิกตัวไปเจ้าหน้าที่ได้ใส่กุญแจที่ข้อเท้านายประสิทธิ์โดยกุญแจมี การนำกุญแจมาไขล็อกข้อเท้านายประสิทธิ์อย่างแน่นหนาแล้ว 1 ดอก ส่วนอีก 1 ดอกเป็นดอกสำรองก็ถูกเก็บไว้อย่างมิดชิดโดยทั้ง 2 ดอกอยู่ที่เรือนจำ
ระหว่างรอผู้พิพากษาลงนั่งบัลลังก์ประมาณ 10.00 น. ได้ขอไปเข้าห้องน้ำ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 1 คนจึงคุมตัวประสิทธิ์ไปเข้าห้องน้ำ โดยตัวเจ้าหน้าที่เฝ้าอยู่หน้าทางเข้าห้องน้ำแล้ว แต่นายประสิทธิ์กลับชวยโอกาสหลบหนีได้
ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ยังบอกอีกว่า ไม่เคยพบเจอกรณีที่ผู้ต้องขังสะเดาะกุญแจข้อเท้าได้มาก่อน คดีที่ผ่านพบแค่การใช้คีมหนีบข้อเท้า ก็มีความเป็นไปได้ว่า อาจทำกุญแจมาใหม่อีกดอกหนึ่งก็เป็นไปได้
ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตอนนี้ตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาอื่นๆ โดยอยู่ระหว่างการสอบถามที่ศาลอาญาและรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่าง ๆ ว่าทั้งสามคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพยายามหลบหนีของนายประสิทธิ์หรือไม่